ความชื้นมีผลกับฟิล์มเคลือบไหม?

ออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือ บรรจุภัณฑ์ อะไรก็ตามแต่ ก็ได้มีวิวัฒนาการรูปแบบของการเคลือบฟิล์มที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่จะต้องเน้นความสวยงามเป็นหลัก การเคลือบฟิล์ม เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเลย เพราะนอกจากจะช่วยในการป้องกันไม่ให้บรรจุภัณฑ์ของเราเกิดความเสียหายแล้ว ก็ยังสามารถที่จะทำให้บรรจุภัณฑ์ของเรามีความสวยงามเป็นอย่างมากอีกด้วย


เรียกได้ว่าการเคลือบฟิล์ม เป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะทำให้บรรจุภัณฑ์ ของเราเกิดความสวยงาม หลายๆ โรงพิมพ์ก็ได้มีการนำเอาเทคนิคการเคลือบฟิล์มต่างๆ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการจัดทำแล้ว โดยการเคลือบฟิล์มเราก็จะต้องเคลือบให้ดี จะต้องมีเทคนิคการเคลือบที่ได้มาตรฐาน ถ้าหากชิ้นงานของเรามีความชื้นมากจนเกินไปนั้นก็อาจจะทำให้การเคลือบฟิล์มไม่สามารถที่จะตอบโจทย์กับความต้องการได้ เทคนิคการเคลือบก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้งานออกแบบของเราออกมาตรงกับความต้องการได้ นั่นเอง

การเลือกใช้เทคนิคในการเคลือบบรรจุภัณฑ์ ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี มันสามารถที่จะตอบโจทย์กับความต้องการของทุกคนได้เป็นอย่างดี โดยเทคนิคการเคลือบก็มีสองแบบ ให้เราเลือกใช้โดยจะเป็น

  • เทคนิคการเคลือบแบบเย็น
  • เทคนิคการเคลือบแบบร้อน

โดยทั้งสองรูปแบบนี้ก็จะมีการเคลือบที่แตกต่างกันออกไป โดยการเคลือบเย็นเราก็จะสามารถที่จะทำได้อยู่เหมือนกัน แต่เราก็จะต้องมีเทคนิคเล็กน้อยเพื่อให้การเคลือบของเราสามารถที่จะออกมาดีและตรงกับความต้องการ

การเคลือบฟิล์มคืออะไร

การเคลือบฟิล์ม เป็นสิ่งที่สามารถช่วยในการสร้างความแตกต่าง พิ่มความสวยงาม และที่สำคัญก็ยังสามารถที่จะ ช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ของเราได้เป็นอย่างดี แถมยังจะทำให้ชิ้นงานของเราสามารถที่จะสร้างความแตกต่าง ทำให้ผู้คนที่ได้เข้ามาเห็นก็จะชื่นชอบกับความสวยงามของบรรจุภัณฑ์ได้ และที่ดีไปกว่ามันก็ยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้งานในด้านต่างๆ โดยมันจะช่วยในการป้องกันความชื้น ป้องกันน้ำ และแสงแดดต่างๆ ทำให้บรรจุภัณฑ์ของเราสามารถที่จะคงความสวยไว้ได้ตลอดเวลานั่นเอง ฉะนั้นแล้วการเคลือบฟิล์มไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดอะไรก็ตามแต่ถ้าหากเราเคลือบได้ดี และตอบโจทย์ได้นั้นก็จะทำให้ชิ้นงานของเราออกมาตรงกับความต้องการและเป็นที่รู้จักของใครหลายๆ คนได้ดีเป็นอย่างมากอีกด้วยเช่นกัน

โดยการเคลือบที่เราใช้กันอยู่ก็อย่างที่บอกไปว่า ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

  • การเคลือบแบบร้อน
    ก็จะเป็นการเคลือบที่จะต้องใช้ความร้อนเข้ามาเป็นตัวช่วยในการเคลือบเพื่อให้ชิ้นงานของเราสามารถที่จะออกมาตรงกับความต้องการได้ โดยจะเป็นการรีดระหว่างวัสดุพิมพ์กับแผ่นฟิล์มชนิดต่างๆ ที่จะนำมารีดกัน โดยคุณสมบัติที่เราต้องการก็คือเราก็จะต้องการความร้อนในการหลอม ถ่ายเท ไปยึดติดกับวัสดุงานพิมพ์ต่างๆ ทำให้ได้ชิ้นงานที่ออกมาตรงกับความต้องการเป็นอย่างมาก โดยการเคลือบร้อนนั้นที่สำคัญเราก็จะต้องดูในเรื่องของความชื้นด้วย ถ้าหากชิ้นงานมีความชื้นมากจนเกินไป ก็อาจจะทำให้การเคลือบของเราไม่สามารถที่จะทำออกมาได้ดีและมีประสิทธิภาพ
  • การเคลือบแบบเย็น
    ก็จะเป็นการเคลือบที่ทำเองได้ง่ายๆ โดยจะเป็นแผ่นฟิล์มต่างๆ โดยเราก็มาทำเองรีดเอง ซึ่งไม่ต้องใช้ความร้อนอะไรเลยในการช่วยเคลือบ เพราะการเคลือบแบบนี้นั้นก็จะมีลักษณะการเคลือบเป็นเช่น การเคลือบหน้าปกหนังสือ การติดสติ๊กเกอร์ต่างๆ เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบชนิดไหนแบบไหนก็ตามแต่ ความชื้นก็ถือเป็นตัวแปรที่สำคัญเป็นอย่างมาก ถ้าหากชิ้นงานของเรามีความชื้นมากเท่าไร ก็จะทำให้การเคลือบฟิล์มของเราไม่ได้มีคุณภาพตามที่เราต้องการ

  เทคนิคการเคลือบทั้งสองชนิดนี้ ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลย เพราะมันจะเป็นสิ่งที่จะทำให้ชิ้นงานของเรานั้นสามารถที่จะอกมาดีและมีความสวยงามเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่การเคลือบเท่านั้นนะครับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ของเรานั้นก็ควรที่จะต้องออกแบบให้มันดีและมีความสวยงามด้วย เพราะถ้าหากเราทำไม่ได้ การเคลือบฟิล์มทุกชนิดมันก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ได้นั่นเอง

ฉะนั้นแล้วเราก็ควรที่จะต้องตั้งใจในทุกๆ อย่างเพื่อให้งานออกแบบของเราออกมาดีและตรงกับความต้องการได้ เทคนิคการเคลือบชนิดต่างๆ ก็ได้มีการพัฒนาไปเยอะมากจริงๆ โดยแต่ละแบบนั้นก็จะมีการพัฒนาทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญการเคลือบฟิล์มในทุกวันนี้ก็มักจะมีราคาที่ถูกและไม่แพง ทำให้ผู้คนที่ได้เข้ามาใช้งานก็สามารถที่จะเข้าถึงกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งสิ่งที่อยากจะฝากไว้ก็คือการเลือกโรงพิมพ์ในการเคลือบฟิล์มต่างๆ นั้นเราก็ควรที่จะต้องเลือกโรงพิมพ์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของเราให้ได้ด้วยเพื่อที่ชิ้นงานของเรานั้นจะได้ออกมาดีและตรงกับความต้องการในรูปแบบที่เราได้กำหนดไว้นั่นเอง