รู้ลึก รู้จริง! 9 กระดาษยอดนิยมในงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์

กระดาษที่นิยมใช้ในการพิมพ์บรรจุภัณฑ์และงานกระดาษออฟฟิศ เช่น กระดาษคราฟท์, กระดาษอาร์ต, กระดาษแข็ง

แนะนำ กระดาษที่นิยมใช้ในงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับคุณสมบัติและการใช้งานของแต่ละวัสดุที่เหมาะสมกับการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

กระดาษเป็นหนึ่งในวัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์หลายประเภท ซึ่งไม่เพียงแต่มีบทบาทในการบรรจุสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีผลโดยตรงต่อคุณภาพและการนำเสนองานพิมพ์ กระดาษที่ใช้ในงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์มีหลากหลายประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น กล่องของขวัญ ป้ายโฆษณา และบรรจุภัณฑ์อาหาร ในบทความนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ กระดาษที่นิยมใช้ในงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ รวมถึงคุณสมบัติและการใช้งานที่เหมาะสมของแต่ละประเภท เพื่อให้คุณสามารถเลือกวัสดุกระดาษที่เหมาะสมกับงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ของคุณได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ


กระดาษยอดนิยมในงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์

แท็กกระดาษประเภทต่างๆ เช่น กระดาษอาร์ตการ์ด, กระดาษเคลือบ, กระดาษคราฟท์, กระดาษฟอยล์ สำหรับงานพิมพ์และบรรจุภัณฑ์

กระดาษยอดนิยมในงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์มีหลายประเภท โดยแต่ละชนิดถูกเลือกตามความเหมาะสมของสินค้า ความทนทาน ความสวยงาม และความคุ้มค่าในการผลิต ต่อไปนี้คือกระดาษที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

1.กระดาษอาร์ตการ์ด 1 หน้า (Art Card 1 Side)

กระดาษอาร์ตการ์ด 1 หน้า เป็นกระดาษที่มีคุณสมบัติพิเศษ ด้วยการเคลือบมันที่ผิวด้านหนึ่งทำให้กระดาษมีความเรียบเนียน และสามารถพิมพ์งานที่มีความคมชัดสูงได้ดี ส่วนอีกด้านหนึ่งของกระดาษไม่เคลือบ จึงเหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการให้สามารถเขียนหรือพิมพ์เพิ่มเติมได้ เช่น การใส่ข้อความเพิ่มเติมหรือการระบุข้อมูล

คุณสมบัติ

  • ผิวเคลือบมัน: ด้านหนึ่งของกระดาษมีการเคลือบมัน ทำให้กระดาษมีความเงางามและช่วยให้ภาพพิมพ์คมชัด สีสดใส
  • ผิวด้านหลังไม่เคลือบ: ด้านหลังสามารถเขียนหรือพิมพ์ข้อมูลเพิ่มเติมได้ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการพื้นที่ให้ข้อมูล
  • ความหนา: มีหลายขนาดความหนา เช่น 260, 300, 350, และ 400 แกรม ซึ่งจะเลือกใช้ตามความต้องการของงานพิมพ์

ข้อดี

  • สีสันสดใสและภาพคมชัด: กระดาษนี้สามารถให้ภาพพิมพ์ที่มีคุณภาพสูง สีสันสดใส คมชัด เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความละเอียด
  • การใช้งานที่หลากหลาย: สามารถใช้ได้ในงานพิมพ์ที่ต้องการพิมพ์เพียงด้านเดียว และอีกด้านสามารถเขียนเพิ่มเติมได้
  • คงทนและทนต่อการใช้งาน: ด้วยความหนาที่หลากหลาย กระดาษอาร์ตการ์ด 1 หน้าเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน

การใช้งานที่แนะนำ

  • กล่องเครื่องสำอาง: ใช้ในการพิมพ์กล่องเครื่องสำอางเพื่อให้ภาพและสีสันดูโดดเด่นและเรียบหรู
  • การ์ดเชิญ: เหมาะสำหรับการพิมพ์การ์ดเชิญงานต่างๆ ที่ต้องการความหรูหราและดูดี
  • ปกหนังสือ: ใช้ในการพิมพ์ปกหนังสือที่ต้องการความคมชัดและมีสีสันสดใส

เหมาะสำหรับงานไหน?

  • กระดาษอาร์ตการ์ด 1 หน้าเหมาะสำหรับงานที่ต้องการพิมพ์เพียงด้านเดียวและอีกด้านสามารถพิมพ์ข้อมูลเพิ่มเติมได้ เช่น การ์ดเชิญ กล่องพรีเมียม หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการพิมพ์ที่มีคุณภาพสูงและมีความทนทาน
  • กระดาษอาร์ตการ์ด 1 หน้าไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการพิมพ์สองด้าน เพราะด้านหลังที่ไม่เคลือบอาจทำให้การพิมพ์ไม่คมชัดหรือหมึกไม่ติดได้ดี

ในกรณีที่ใช้ในการพิมพ์ที่มีรายละเอียดมาก ควรระวังความหนาของกระดาษ เพราะการใช้กระดาษที่หนามากอาจทำให้การพิมพ์ยากขึ้น


2.กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า (Art Card 2 Side)

กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า เป็นกระดาษที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้มันโดดเด่นจากกระดาษทั่วไป เพราะมันมีการเคลือบมันทั้งสองด้าน ทำให้ผิวกระดาษเรียบเนียนและเงางาม เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความคมชัดทั้งสองด้าน กระดาษชนิดนี้มักจะใช้ในงานที่ต้องการความสวยงามและความคมชัดสูง เช่น โปสการ์ด กล่องของขวัญ หรือแม้แต่การพิมพ์สำหรับป้ายโฆษณา

คุณสมบัติ

  • เคลือบมันทั้งสองด้าน: กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้าเคลือบมันทั้งสองด้าน ทำให้กระดาษมีผิวที่เงางามและเรียบเนียน เหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพที่ต้องการความคมชัดและสีสันสดใส
  • ความหนา: กระดาษชนิดนี้มีหลายความหนา เช่น 190, 210, 230, 260 แกรม ซึ่งจะเลือกใช้ตามลักษณะของงานพิมพ์ เช่น หากเป็นงานพิมพ์กล่องของขวัญหรือโปสการ์ด ก็สามารถเลือกความหนาที่เหมาะสมเพื่อให้กระดาษดูพรีเมียมและทนทาน

ข้อดี

  • ความสวยงามทั้งสองด้าน: เพราะเคลือบมันทั้งสองด้าน กระดาษนี้จะให้ความสวยงามทั้งสองฝั่ง เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความสวยงามและคมชัดทั้งภายในและภายนอก
  • ทนทาน: กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า มีความทนทานและแข็งแรง เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการพิมพ์ที่ยาวนานหรือการพิมพ์ที่ต้องรองรับการสัมผัสบ่อยๆ เช่น การพิมพ์กล่องของขวัญที่ลูกค้าอาจจะต้องสัมผัสหลายครั้ง
  • พิมพ์ได้ทั้งสองด้าน: เหมาะกับการพิมพ์ข้อมูลหรือกราฟิกบนทั้งสองด้าน เช่น โปสการ์ดที่มีข้อความด้านหน้าและด้านหลัง หรือกล่องพรีเมียมที่ต้องการการพิมพ์ดีไซน์ทั้งสองฝั่ง

การใช้งานที่แนะนำ

  • กล่องของขวัญ: เพราะกระดาษมีลักษณะเงางามและทนทาน กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้าเหมาะสำหรับการพิมพ์กล่องของขวัญที่ต้องการให้ดูหรูหราและพรีเมียม
  • กล่องอาหารพรีเมียม: ใช้ในการผลิตกล่องอาหารที่มีภาพพิมพ์สวยงามทั้งสองด้าน
  • โปสการ์ด: สำหรับการพิมพ์โปสการ์ดที่ต้องการความคมชัดและสีสันที่สดใสทั้งสองด้าน
  • ป้ายโฆษณาหรือโปสเตอร์: หากต้องการให้ป้ายโฆษณาหรือโปสเตอร์ดูสวยงามและทนทาน ควรเลือกใช้กระดาษชนิดนี้

เหมาะสำหรับงานไหน?

  • กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้าเหมาะสำหรับงานที่ต้องการพิมพ์ทั้งสองด้านและต้องการให้การพิมพ์ดูสวยงามและคมชัดทั้งภายในและภายนอก กระดาษชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการคุณภาพสูงและความทนทาน เช่น งานบรรจุภัณฑ์สินค้าพรีเมียม งานพิมพ์ที่ต้องการให้ดูหรูหรา หรือแม้แต่การพิมพ์โปสการ์ดและป้ายโฆษณาที่ต้องการความคมชัดและสีสดใส
  • ข้อควรระวัง
  • กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้าไม่เหมาะกับงานที่ต้องการพิมพ์จำนวนมากหรือมีความซับซ้อนในการพิมพ์มาก เพราะการเคลือบมันทั้งสองด้านอาจทำให้การพิมพ์บนบางพื้นผิวยากขึ้น

หากต้องการงานที่ราคาถูก กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้าอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะราคาของกระดาษนี้ค่อนข้างสูงกว่ากระดาษประเภทอื่นๆ


3.กระดาษกล่องแป้งหลังขาว (Coated White Back Paper)

กระดาษกล่องแป้งหลังขาว เป็นกระดาษที่ใช้กันมากในการผลิตบรรจุภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน และมีการพิมพ์ที่สวยงาม กระดาษชนิดนี้มีคุณสมบัติที่พิเศษคือ ผิวด้านหนึ่งเคลือบมันสีขาวที่เรียบเนียน ส่วนอีกด้านจะเป็นสีขาวธรรมชาติที่ไม่มีการเคลือบ

คุณสมบัติ

  • ผิวเคลือบมันสีขาว: กระดาษนี้มีผิวที่เคลือบมันด้านหนึ่ง ซึ่งช่วยให้การพิมพ์ที่ออกมามีความคมชัดและสีสันสดใส ดูดีมากขึ้น
  • ผิวด้านหลังเป็นสีขาว: ด้านหลังของกระดาษไม่มีการเคลือบ ทำให้มันเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการให้กระดาษมีความแข็งแรง แต่ก็ยังสามารถใช้ด้านหลังเพื่อเขียนหรือพิมพ์ข้อมูลเพิ่มเติมได้
  • ความหนาและความแข็งแรง: กระดาษนี้มีความหนาและทนทาน สามารถใช้ทำกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ต้องรองรับสินค้าได้ดี

ข้อดี

  • ทนทานและแข็งแรง: กระดาษกล่องแป้งหลังขาวมีความแข็งแรงและทนทานมาก เหมาะสำหรับการทำกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ต้องรองรับสินค้า เช่น กล่องขนม กล่องอาหาร หรือกล่องของเล่น
  • ความสวยงามในการพิมพ์: กระดาษนี้มีการเคลือบมันด้านหนึ่ง ทำให้สีพิมพ์ออกมาดูสดใสและคมชัด เพิ่มมูลค่าให้กับงานพิมพ์
  • ใช้ได้ทั้งงานหนักและเบา: แม้ว่าจะเป็นกระดาษที่ทนทาน แต่กระดาษกล่องแป้งหลังขาวก็ยังสามารถใช้ในงานที่ไม่ต้องการความแข็งแรงสุดๆ เช่น งานพิมพ์โบรชัวร์ หรือแม้กระทั่งป้ายสินค้าที่ต้องการความทนทาน

การใช้งานที่แนะนำ

กระดาษกล่องแป้งหลังขาวมีการใช้งานที่หลากหลาย โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและการพิมพ์ที่มีคุณภาพ

  • กล่องขนม: ใช้ในงานพิมพ์กล่องขนมที่ต้องการให้สีสดใสและมีความแข็งแรงในการรองรับสินค้า
  • กล่องอาหาร: กระดาษนี้เหมาะมากในการทำกล่องอาหาร เพราะทนทานต่อการใช้งานและยังให้ภาพพิมพ์ที่คมชัด
  • กล่องของเล่น: ใช้ในการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับของเล่น เนื่องจากต้องการความแข็งแรงและทนทาน
  • กล่องบรรจุภัณฑ์สินค้าอื่นๆ: ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค หรือสินค้าราคาไม่สูงมาก กระดาษกล่องแป้งหลังขาวก็เป็นตัวเลือกที่ดี

เหมาะสำหรับงานไหน?

กระดาษกล่องแป้งหลังขาวเหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความทนทานและความสวยงามในระดับที่ไม่ต้องการกระดาษหรูหราเกินไป เช่น ใช้ทำกล่องของขวัญที่ไม่ต้องการให้ดูหรูหรามาก แต่ยังคงคุณภาพสูง หรือใช้ในงานบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงและสามารถพิมพ์รายละเอียดต่างๆ ได้ดี

ข้อควรระวัง

กระดาษชนิดนี้ไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการการพิมพ์ทั้งสองด้านอย่างสมบูรณ์ เพราะด้านหลังไม่เคลือบ จึงไม่สามารถพิมพ์ได้ดีเหมือนกับกระดาษที่เคลือบทั้งสองด้าน

หากต้องการกระดาษที่มีความทนทานมากๆ หรือมีการเคลือบผิวที่หนา อาจจะต้องเลือกกระดาษที่มีการเคลือบทั้งสองด้าน เช่น กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า หรือ กระดาษฟอยล์


4.กระดาษกล่องแป้งหลังเทา (Grayback Duplex Board)

กระดาษกล่องแป้งหลังเทา หรือที่บางครั้งเรียกว่า กระดาษดั๊บเบิลบอร์ดหลังเทา เป็นกระดาษที่มีลักษณะพิเศษตรงที่มีการเคลือบผิวมันสีขาวที่ด้านหนึ่ง และอีกด้านเป็นสีเทา กระดาษชนิดนี้ได้รับความนิยมในงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน โดยเฉพาะงานที่ไม่ต้องการให้มีความหรูหรามากเกินไป แต่ก็ยังคงรักษาคุณภาพของการพิมพ์ได้ดี

คุณสมบัติ

  • ผิวเคลือบมันด้านหนึ่ง: ด้านหนึ่งของกระดาษจะมีการเคลือบมันสีขาว เพื่อให้การพิมพ์มีความคมชัดและสีสันสดใส โดยส่วนนี้จะเหมาะสำหรับการพิมพ์กราฟิกหรือข้อความ
  • ด้านหลังสีเทา: อีกด้านจะมีสีเทา ซึ่งทำให้กระดาษนี้มีราคาที่ถูกกว่ากระดาษที่เคลือบมันทั้งสองด้าน แต่ยังคงสามารถใช้สำหรับการพิมพ์ที่ต้องการความทนทานและไม่ต้องการความหรูหรามากเกินไป
  • ความหนาและความแข็งแรง: กระดาษกล่องแป้งหลังเทามักจะมีความหนาที่หลากหลาย เช่น 300 แกรม, 350 แกรม, 400 แกรม ซึ่งทำให้มันเหมาะกับงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น กล่องบรรจุภัณฑ์

ข้อดี

  • ราคาประหยัด: กระดาษชนิดนี้มักมีราคาถูกกว่ากระดาษเคลือบมันทั้งสองด้าน เช่น กระดาษอาร์ตการ์ด เพราะกระบวนการผลิตไม่ซับซ้อนเท่าไหร่
  • ทนทานและแข็งแรง: ด้วยความหนาของกระดาษที่มีหลากหลายขนาด กระดาษกล่องแป้งหลังเทาจะให้ความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน เช่น การพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่ต้องรับน้ำหนัก
  • ให้ภาพพิมพ์ที่สวยงาม: แม้ว่าด้านหลังจะเป็นสีเทา แต่ด้านที่เคลือบมันสีขาวนั้นยังคงให้ภาพพิมพ์ที่คมชัดและสีสดใสได้ดี

การใช้งานที่แนะนำ

  • กล่องรองเท้า: กระดาษกล่องแป้งหลังเทาเหมาะมากสำหรับการทำกล่องรองเท้า เพราะมีความแข็งแรงพอที่จะปกป้องสินค้าได้ดี โดยที่ไม่ต้องการความหรูหรามาก
  • กล่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: ใช้สำหรับกล่องบรรจุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ต้องการภาพพิมพ์ที่ละเอียดมาก แต่ต้องการความทนทานและการปกป้องสินค้า
  • กล่องสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป: กระดาษชนิดนี้เหมาะสำหรับการทำกล่องที่ต้องการรองรับสินค้าที่ไม่หนักมาก เช่น สินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์ทั่วไป

เหมาะสำหรับงานไหน?

กระดาษกล่องแป้งหลังเทาเหมาะสำหรับงานที่ต้องการกระดาษที่มีความแข็งแรงและราคาประหยัด เช่น การผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ต้องการความหรูหราเกินไป แต่ต้องการให้สามารถปกป้องสินค้าภายในได้ดี กระดาษชนิดนี้เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าทั่วไป หรือสินค้าที่มีราคาไม่สูงมากนัก

ข้อควรระวัง

ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความหรูหรา: กระดาษกล่องแป้งหลังเทามีราคาที่ไม่แพงและไม่เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการให้มีความพรีเมียมสูง ดังนั้นหากคุณต้องการกล่องที่ดูหรูหราหรือเหมาะกับสินค้าพรีเมียม กระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษฟอยล์อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า


6.กระดาษปอนด์ (Bond Paper)

กระดาษปอนด์ (Bond Paper) คือกระดาษที่หลายๆ คนอาจคุ้นเคยกันดี เพราะมันเป็นกระดาษที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำเอกสารในชีวิตประจำวัน เช่น เอกสารสำนักงาน หนังสือ หรือแม้แต่เอกสารบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ต้องการคุณภาพพิมพ์สูงมากนัก มาดูกันว่ากระดาษปอนด์มีคุณสมบัติอย่างไร และเหมาะกับงานพิมพ์ประเภทไหนบ้าง

คุณสมบัติ

  • ผิวเรียบ: กระดาษปอนด์มีผิวเรียบและเนื้อสัมผัสที่ไม่เคลือบมัน ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการเขียนหรือพิมพ์ที่ต้องการให้หมึกซึมลงกระดาษได้ดี
  • สีขาว: กระดาษปอนด์มีสีขาวที่สะอาดตา ทำให้การพิมพ์หรือเขียนมีความชัดเจน
  • ไม่เคลือบ: กระดาษชนิดนี้ไม่มีการเคลือบใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้มันสามารถรับหมึกพิมพ์ได้ดีและแห้งไว
  • ความหนา: กระดาษปอนด์มักจะมีความหนาเบา เช่น 80 แกรม 100 แกรม หรือ 120 แกรม ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการกระดาษหนามาก

ข้อดี

  • ราคาประหยัด: กระดาษปอนด์มีราคาถูกกว่ากระดาษประเภทอื่นๆ เช่น กระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษอาร์ตมัน ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับงานพิมพ์จำนวนมากที่ไม่ต้องการความหรูหรามาก
  • เหมาะกับการเขียน: เนื่องจากมีพื้นผิวที่ไม่มันมาก กระดาษปอนด์จึงเหมาะกับการเขียนด้วยปากกา ดินสอ หรือเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่ไม่ต้องการให้หมึกไหลซึม
  • ใช้ในงานที่ไม่ซับซ้อน: เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารทั่วไป เช่น จดหมาย หนังสือหรือรายงาน เนื่องจากไม่ต้องการคุณภาพพิมพ์ที่ละเอียดหรือหรูหรามาก

การใช้งานที่แนะนำ

  • ซองเอกสาร: กระดาษปอนด์มักใช้ในงานพิมพ์ซองเอกสารที่ต้องการให้ดูสะอาดเรียบร้อยและไม่ต้องการความทนทานสูง
  • เอกสารประกอบบรรจุภัณฑ์: ใช้ในการพิมพ์เอกสารที่มาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์ เช่น ใบแจ้งหนี้ คูปอง หรือใบแนะนำสินค้า
  • ห่อสินค้าทั่วไป: หากสินค้าของคุณไม่ต้องการการพิมพ์ที่ละเอียดมาก กระดาษปอนด์ก็เหมาะสำหรับการห่อหรือเป็นส่วนประกอบในการบรรจุภัณฑ์
  • การพิมพ์เอกสารทั่วไป: เหมาะสำหรับการพิมพ์รายงาน การประชุม หรือเอกสารที่ไม่ได้เน้นการพิมพ์สีสันหรูหรา

เหมาะสำหรับงานไหน?

กระดาษปอนด์เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารหรือทำสิ่งพิมพ์ที่ไม่ต้องการความหรูหรา แต่ยังคงต้องการความชัดเจนในการอ่านหรือการเขียน โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานสำนักงานทั่วไป งานที่ไม่ต้องการกระดาษหนาหรือมีคุณภาพพิมพ์ที่สูงมาก แต่ยังคงให้ความสะดวกและประหยัดงบประมาณ

ข้อควรระวัง

  • ไม่เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการความคมชัดสูง: ถ้าคุณต้องการงานพิมพ์ที่มีภาพหรือกราฟิกที่ละเอียด เช่น โบรชัวร์หรือโปสเตอร์ กระดาษปอนด์อาจไม่เหมาะเพราะมันไม่สามารถรองรับการพิมพ์ที่ละเอียดและคมชัดเหมือนกับกระดาษอาร์ต
  • ความทนทานต่ำ: กระดาษปอนด์ไม่ทนทานต่อการฉีกขาดหรือสึกหรอ ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ต้องรองรับน้ำหนัก

7.กระดาษอาร์ตมัน (Glossy Art Paper)

กระดาษอาร์ตมัน (Glossy Art Paper) เป็นกระดาษที่มีผิวมันเงาและเรียบเนียน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในการพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพสูง โดยเฉพาะงานที่ต้องการสีสันสดใสและคมชัด เช่น แผ่นพับ โบรชัวร์ โปสเตอร์ หรือแม้แต่การพิมพ์ภาพถ่ายที่ต้องการความคมชัดและสีที่สดใสที่สุด!

คุณสมบัติของกระดาษอาร์ตมัน

  • ผิวมันเงา: กระดาษอาร์ตมันมีผิวที่เคลือบเงา ทำให้กระดาษดูสวยงามและเงางาม ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานพิมพ์และช่วยให้สีพิมพ์ดูสดใสขึ้น
  • ความเรียบเนียน: กระดาษนี้มีความเรียบเนียนมาก จึงเหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความละเอียดสูงและภาพที่คมชัด สีที่ได้จะดูสวยงามและไม่ด่าง
  • รองรับหมึกได้ดี: ด้วยผิวที่เรียบและเคลือบมัน ทำให้กระดาษอาร์ตมันสามารถรองรับหมึกพิมพ์ได้ดีมาก สีที่พิมพ์ออกมาจะคมชัด ไม่ซีดจาง และแห้งไว
  • ความหนา: กระดาษอาร์ตมันมักจะมีความหนาอยู่ที่ประมาณ 130 แกรม, 160 แกรม ซึ่งเป็นความหนาที่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์งานที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานแต่ยังคงรักษาความยืดหยุ่น

ข้อดี

  • ภาพคมชัด สีสดใส: กระดาษอาร์ตมันทำให้ภาพพิมพ์ที่ออกมามีความคมชัด สีสันสดใส เหมาะมากสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น โปสเตอร์ แผ่นพับ หรือภาพถ่าย
  • เหมาะกับงานพิมพ์คุณภาพสูง: เนื่องจากมีความเงางามและผิวเรียบ การใช้กระดาษชนิดนี้จึงเหมาะมากกับงานที่ต้องการความหรูหราและคุณภาพสูง
  • การพิมพ์หลายสี: กระดาษอาร์ตมันรองรับการพิมพ์ 4 สีได้ดีมาก ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการใช้สีสันหลายๆ สี เช่น โบรชัวร์ หรือแผ่นพับที่มีกราฟิก

การใช้งานที่แนะนำ

กระดาษอาร์ตมันเหมาะสำหรับการพิมพ์งานที่ต้องการคุณภาพสูงและมีภาพที่คมชัด เช่น

  • แผ่นพับ (Brochure): ใช้กระดาษอาร์ตมันในการพิมพ์แผ่นพับที่ต้องการดึงดูดความสนใจจากผู้รับด้วยภาพและสีที่สดใส
  • โปสเตอร์: การพิมพ์โปสเตอร์ด้วยกระดาษอาร์ตมันจะทำให้โปสเตอร์ดูหรูหราและดึงดูดความสนใจ
  • โบรชัวร์: เหมาะกับโบรชัวร์หรือแคตตาล็อกสินค้าที่ต้องการแสดงรายละเอียดสินค้าหรือบริการที่ชัดเจน
  • ภาพถ่าย: สำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพสูง กระดาษอาร์ตมันจะช่วยให้สีสันของภาพพิมพ์สดใสและคมชัด

เหมาะสำหรับงานไหน?

กระดาษอาร์ตมันเหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการภาพที่คมชัด สีสันสดใส เช่น โปสเตอร์, โบรชัวร์, แผ่นพับ, การ์ดเชิญงานต่างๆ หรือแม้แต่การพิมพ์ภาพถ่าย คุณสามารถใช้กระดาษชนิดนี้ในงานพิมพ์ที่ต้องการความหรูหราและความสวยงาม ทั้งนี้ก็จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณดูน่าสนใจมากขึ้น

ข้อควรระวัง

  • ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการเขียนหรือเพิ่มข้อมูล: กระดาษอาร์ตมันไม่เหมาะกับการเขียนหรือพิมพ์เพิ่มเติมด้วยปากกา เพราะผิวมันอาจทำให้หมึกไม่ติดหรือเลอะเทอะได้
  • ราคาค่อนข้างสูง: ด้วยคุณภาพและการเคลือบที่ใช้ในการผลิต กระดาษอาร์ตมันอาจมีราคาสูงกว่ากระดาษประเภทอื่น ดังนั้น ควรคำนึงถึงงบประมาณหากต้องใช้ในปริมาณมาก

8.กระดาษฟอยล์ (Foil Paper)

กระดาษฟอยล์ เป็นกระดาษที่มีการเคลือบฟอยล์ที่ผิวด้านหนึ่ง ซึ่งทำให้กระดาษมีลักษณะที่เงางามและสะท้อนแสงได้ดี กระดาษชนิดนี้มักจะใช้ในงานที่ต้องการเพิ่มความหรูหรา หรือทำให้การพิมพ์มีความโดดเด่นและสะดุดตา เช่น งานพิมพ์ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าหรือบริการ หรือแม้แต่การพิมพ์บัตรเชิญงานสำคัญที่ต้องการให้ดูพิเศษและมีเอกลักษณ์

คุณสมบัติ

  • ผิวเคลือบฟอยล์: กระดาษฟอยล์มีผิวที่เคลือบด้วยฟอยล์ชนิดบาง ทำให้กระดาษมีความเงางามและสะท้อนแสงได้ดี ผิวสัมผัสจะให้ความรู้สึกหรูหราและมีคุณค่ามากขึ้น
  • ทนทานต่อการขีดข่วน: กระดาษฟอยล์สามารถทนทานต่อการขีดข่วนและไม่ทำให้สีลอกได้ง่าย ทำให้มันเหมาะกับงานที่ต้องการความทนทานสูง
  • เพิ่มความหรูหรา: ฟอยล์ที่เคลือบทำให้กระดาษดูหรูหราและโดดเด่น เหมาะสำหรับการใช้ในงานที่ต้องการเพิ่มมูลค่าหรือความหรูหราให้กับผลิตภัณฑ์

ข้อดี

  • เพิ่มความโดดเด่น: การใช้กระดาษฟอยล์ช่วยทำให้งานพิมพ์ดูเด่นและสะดุดตามากขึ้น เนื่องจากผิวฟอยล์ที่สะท้อนแสงทำให้งานพิมพ์ดูมีมิติ
  • เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความพิเศษ: กระดาษฟอยล์เหมาะสำหรับการพิมพ์บรรจุภัณฑ์หรือการ์ดเชิญพิเศษที่ต้องการความหรูหราและดูมีค่า
  • สามารถใช้กับเทคนิคพิมพ์หลากหลาย: กระดาษฟอยล์สามารถใช้ร่วมกับการพิมพ์ในหลายๆ เทคนิค เช่น การพิมพ์ออฟเซ็ท หรือการพิมพ์แบบฟอยล์สติกเกอร์เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ

การใช้งานที่แนะนำ

  • กล่องของขวัญ: กระดาษฟอยล์มักใช้ในกล่องของขวัญพรีเมียมหรือกล่องสินค้าหรูหรา ที่ต้องการเพิ่มความน่าสนใจและมูลค่าให้กับสินค้าภายใน
  • บรรจุภัณฑ์สินค้าหรูหรา: เช่น กล่องเครื่องสำอาง หรือบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความพิเศษและความหรูหรา เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า
  • การ์ดเชิญพิเศษ: กระดาษฟอยล์มักจะใช้ในการพิมพ์การ์ดเชิญงานสำคัญ เช่น งานแต่งงาน งานปาร์ตี้ หรือการ์ดเชิญหรูๆ ที่ต้องการความสะดุดตา
  • โปสเตอร์หรืองานพิมพ์โฆษณา: งานพิมพ์ที่ต้องการให้แสดงออกถึงความหรูหราหรือความพิเศษ เช่น โปสเตอร์สำหรับสินค้าแฟชั่นหรูๆ

เหมาะสำหรับงานไหน?

กระดาษฟอยล์เหมาะกับงานที่ต้องการความโดดเด่นและต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ หรือในงานที่ต้องการให้ดูหรูหราและมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะในงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์สินค้าหรูหรา การ์ดเชิญพิเศษ หรือแม้กระทั่งโปสเตอร์โฆษณาที่ต้องการความโดดเด่นในตลาด

ข้อควรระวัง

  • ราคาค่อนข้างสูง: กระดาษฟอยล์มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับกระดาษชนิดอื่นๆ เพราะฟอยล์ที่เคลือบทำให้กระดาษมีความพิเศษและเพิ่มค่าใช้จ่าย
  • จำเป็นต้องใช้กับงานที่มีมูลค่าสูง: เนื่องจากราคาและลักษณะพิเศษของกระดาษฟอยล์ การใช้กระดาษนี้ในงานที่ไม่จำเป็นอาจทำให้ต้นทุนสูงเกินไป

9.กระดาษจั่วปัง (Rigid Box)

กระดาษจั่วปัง (Rigid Box) เป็นกระดาษที่มีความหนาและแข็งแรงสูง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน เพื่อปกป้องสินค้าภายในกระดาษชนิดนี้มักถูกใช้ในการทำ กล่องของขวัญ กล่องเครื่องประดับ หรือกล่องที่มีสินค้าพรีเมียมที่ต้องการความหรูหรา กระดาษจั่วปังจะให้ภาพลักษณ์ที่ดูมีคุณค่าและพรีเมียม ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าที่บรรจุอยู่ภายใน

คุณสมบัติ

  • ความหนาและแข็งแรงสูง: กระดาษจั่วปังมีความหนามากกว่ากระดาษชนิดอื่นๆ ทำให้มันแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทกและการใช้งาน
  • การรองรับการพิมพ์ที่ดี: กระดาษจั่วปังสามารถพิมพ์ได้ดีและรองรับหมึกพิมพ์ได้คมชัด เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการสีสันสดใสและความคมชัด
  • ผิวสัมผัสที่มีความนุ่ม: แม้กระดาษจั่วปังจะมีความหนาและแข็ง แต่ยังคงมีผิวสัมผัสที่นุ่มนวล ซึ่งช่วยให้การสัมผัสรู้สึกดีและมีคุณภาพ
  • ทนทานต่อสภาพแวดล้อม: กระดาษชนิดนี้มีความทนทานต่อความชื้นและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีในการทำบรรจุภัณฑ์สินค้าที่ต้องการความคงทนและยาวนาน

ข้อดี

  • การปกป้องสินค้าภายใน: ด้วยความแข็งแรงของกระดาษจั่วปัง กระดาษชนิดนี้เหมาะมากในการใช้ผลิตกล่องสำหรับสินค้าที่บอบบางหรือมีราคาแพง เช่น นาฬิกา เครื่องประดับ หรือสินค้าหรูหราอื่นๆ
  • ให้ภาพลักษณ์หรูหรา: กระดาษจั่วปังทำให้กล่องดูหรูหราและมีคุณค่ามากขึ้น เหมาะกับงานที่ต้องการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าหรือผู้รับ
  • สามารถทำกล่องหลายขนาดและรูปทรง: กระดาษจั่วปังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถทำกล่องในหลายขนาดและรูปทรงตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกล่องขนาดเล็กหรือใหญ่ หรือกล่องที่มีลักษณะเฉพาะ

การใช้งานที่แนะนำ

  • กล่องเครื่องประดับ: เนื่องจากกระดาษจั่วปังมีความแข็งแรงและทนทาน จึงเหมาะมากสำหรับการผลิตกล่องเครื่องประดับที่ต้องการให้สินค้าดูมีคุณค่า
  • กล่องของขวัญพรีเมียม: ใช้ในกล่องของขวัญสำหรับสินค้าไฮเอนด์ เช่น กล่องนาฬิกาหรู หรือกล่องเครื่องสำอางหรู
  • กล่องใส่นาฬิกา: กระดาษจั่วปังสามารถให้การปกป้องที่ดีเยี่ยมและเพิ่มความหรูหราให้กับกล่องใส่นาฬิกา
  • กล่องสำหรับสินค้าพรีเมียม: ใช้ในงานพิมพ์กล่องสินค้าพรีเมียมที่ต้องการเพิ่มมูลค่าและสร้างความประทับใจ เช่น กล่องสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับสูง

เหมาะสำหรับงานไหน?

กระดาษจั่วปังเหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความทนทานและความหรูหราในระดับสูง เช่น งานพิมพ์กล่องสินค้าพรีเมียม การพิมพ์กล่องเครื่องประดับ และการพิมพ์กล่องของขวัญที่ต้องการคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังเหมาะกับการทำบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงและมีคุณค่า

ข้อควรระวัง

  • ราคาค่อนข้างสูง: เนื่องจากกระดาษจั่วปังมีความหนาและแข็งแรง ราคาของกระดาษนี้ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับกระดาษประเภทอื่นๆ
  • ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการยืดหยุ่นมาก: หากคุณต้องการกระดาษที่มีความยืดหยุ่นสูงเพื่อทำการพับหรือรูปทรงที่ซับซ้อน กระดาษจั่วปังอาจจะไม่ตอบโจทย์เพราะมันมีความแข็งแรงและค่อนข้างจะหยาบ

สรุป

การเลือกกระดาษที่เหมาะสมสำหรับงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถส่งผลต่อคุณภาพและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ กระดาษที่ใช้ต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมตามประเภทของบรรจุภัณฑ์ เช่น ความทนทาน ความเรียบของผิวกระดาษ และความสามารถในการพิมพ์สีสันที่สดใส โดยสามารถเลือกใช้จากวัสดุกระดาษทั้ง 9 ประเภทที่นิยมในตลาด ซึ่งจะช่วยให้การออกแบบและการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ของคุณมีคุณภาพสูงและดูดึงดูด


คำถามที่พบบ่อย

1.กระดาษอาร์ตการ์ด 1 หน้า คืออะไร? 

ตอบ: กระดาษอาร์ตการ์ด 1 หน้าเป็นกระดาษที่เคลือบมันที่ผิวด้านหนึ่งและอีกด้านหนึ่งไม่เคลือบ เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความคมชัดและสามารถเขียนเพิ่มเติมได้ด้านหลัง

2.กระดาษคราฟท์เหมาะสำหรับงานประเภทไหน?

ตอบ: กระดาษคราฟท์เหมาะสำหรับงานบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรง เช่น กล่องบรรจุภัณฑ์หรือถุงกระดาษสำหรับสินค้าธรรมชาติหรือออร์แกนิก

3.กระดาษอาร์ตมันใช้งานอย่างไร?

ตอบ: กระดาษอาร์ตมันเหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความคมชัดและสีสันสดใส เช่น แผ่นพับ โบรชัวร์ และโปสเตอร์